ขนมชั้น

ส่วนผสม
หัวกะทิ   4   ถ้วย
น้ำตาลทราย   3   ถ้วย
น้ำลอยดอกมะลิ   1   ถ้วย
แป้งถั่วเขียว   2   ช้อนโต๊ะ
แป้งท้าวยายม่อม   1   ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า   2   ช้อนโต๊ะ
แป้งมัน   2   ถ้วย
ใบเตย   10   ใบ (คั้นน้ำข้น ๆ)



วิธีทำ
1. เชื่อมน้ำเชื่อมโดยใช้น้ำ 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
2. ผสมแป้งทั้ง 4 ชนิด เข้าด้วยกัน แล้วนวดกับกะทิ โดยค่อย ๆ ใส่กะทิทีละน้อย ๆ นวดนาน ๆ จนกะทิหมด แล้วใส่น้ำเชื่อมคนให้เข้ากัน พอให้แป้งติดหลังมือนิดหน่อย
3. กรองแป้งทั้งหมด แล้วแบ่งแป้งครึ่งหนึ่งเป็นสีขาว อีกครึ่งหนึ่งใส่ใบเตยหรือสีตามชอบ
4. นำถาดไปนึ่งแล้วทาน้ำมันให้ทั่ว ใส่แป้งสีขาวประมาณ 1/2 ถ้วย แล้วนึ่งให้สุกประมาณ 5 นาที ชั้นที่ 2 ใส่สีเขียว แล้วนึ่งอีกประมาณ 5 นาที ทำเช่นนี้ไปจนหมดแป้ง แล้วให้ชั้นสุดท้ายเป็นสีเข้มกว่าชั้นอื่น ๆ เมื่อสุกยกลงทิ้งให้เย็น แล้วตัดเป็นชิ้นตามต้องการ

ลูกชุบ

 เครื่องปรุง + ส่วนผสม

ถั่วเขียว  450  กรัม

น้ำตาลทราย  200  กรัม  (สำหรับผสมถั่ว)

น้ำตาลทราย  1  ช้อนโต๊ะ  (สำหรับทำน้ำวุ้น)

น้ำกะทิ  400  กรัม

วุ้นผง  3  ช้อนโต๊ะ

น้ำเปล่า   3  ถ้วยตวง  (สำหรับทำน้ำวุ้น)

สีผสมอาหาร  (อย่างน้อยแม่สี 3 สี : สีแดง, สีเหลืองและน้ำเงิน)

จานสีและพู่กัน

ไม้จิ้มฟัน  (สำหรับเสียบถั่วที่ปั้นแล้วเพื่อแต่งสีและจิ้มลงในน้ำวุ้น)

โฟม  (สำหรับเสียบถั่วปั้นระหว่างทำ ถ้าวางบนพื้นจะเสียทรง)

วิธีทำ

1. นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมาทำความสะอาด และแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 15 นาที) 2. เมื่อถั่วเขียวสุกดีแล้ว ให้นำไปใส่ในเครื่องปั่นไฟฟ้า พร้อมกับน้ำตาลทรายและน้ำกะทิ ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี 3. จากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟลอนก็ได้)และตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆกวนจนข้นและเหนียว (ใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาที) จึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น (ถั่วต้องแห้ง มิเช่นนั้นจะไม่สามารถนำไปปั้นได้) 4. ก่อนปั้นให้นวดส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงปั้นให้เป็นรูปทรงตามใจชอบ (ผัก, ผลไม้หรือสัตว์น่ารักๆ) เมื่อปั้นเสร็จให้เสียบไม้จิ้มฟันรอไว้ ควรปั้นส่วนผสมทั้งหมดให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ถั่วที่ปั้นเสร็จแล้วควรห่อไว้ด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆ 5. ผสมสีผสมอาหารตามต้องการ แล้วจึงบรรจงแต่งสีลงบนถั่วปั้นให้เหมือนจริง หรือตามแต่ความชอบ 6. ทำน้ำวุ้นโดยผสมน้ำเปล่า, ผงวุ้นและน้ำตาล ลงในหม้อ นำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง หมั่นคนอย่างสม่ำเสมอ รอจนส่วนผสมเดือด ช้อนฟองที่ลอยหน้าออก จึงหรี่ไฟลง 7. นำถั่วปั้นที่แต่งสีแล้วไปชุบในน้ำวุ้น ควรชุบประมาณ 2 - 3 ครั้ง ระหว่างชุบวุ้นต้องอุ่นน้ำวุ้นด้วยไฟอ่อนเพื่อไม่ให้วุ้นแข็ง ถ้าไม่พอก็ผสมน้ำวุ้นขึ้นใหม่ตามอัตราส่วนข้างต้น 8. นำลูกชุบออกจากไม้ิจิ้มฟัน ตัดแต่งเศษวุ้นส่วนเกินออกด้วยกรรไกร จัดใส่จาน เสริฟเป็นของว่างในวันสบายๆได้ทันที

ผัดไทย

ส่วนผสม

เส้นผัดไทย	1 กิโลกรัม
กุ้งแห้ง	1 ถ้วยตวง
เต้าหู้เหลืองแข็งหั่นชิ้นเล็กๆ	1 แผ่น
หัวไชโป๊วสับ	1 ถ้วยตวง
พริกป่น	50 กรัม
ถั่วลิสงคั่วบุบหยาบๆ	1ถ้วยตวง
ไข่ไก่	4 ฟอง
ถั่วงอก	1/2 กิโลกรัม
กุยช่ายหั่นเป็นท่อน	2 ถ้วยตวง
กระเทียมสับละเอียด	50 กรัม
น้ำมะขามเปียก	1/2 ถ้วย
น้ำปลา	1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย	1/2 ถ้วย
น้ำมันพืช	1/2 ถ้วย
น้ำเปล่า	1 ถ้วย

เครื่องปรุง - ผักเคียง
พริกป่น 

น้ำตาลทราย 

น้ำปลา 

มะนาวฝาน 

หัวปลี 

กุยช่ายตัดสั้น

ถั่วงอกดิบ 

ใบบัวบก

วิธีทำ
1.กระทะใส่น้ำมันพืช  2  ช้อนโต๊ะ  ตั้งไฟกลาง  พอน้ำมันร้อน  ใส่กระเทียมสับลงเจียวพอหอม  ใส่เต้าหู้ลงทอด หัวไชโป๊วสับ ถั่วลิสงบุบ กุ้งแห้ง ใส่เส้นผัดไทย
และ ใส่น้ำเปล่าเล็กน้อยลงผัดพอเส้นนุ่ม
2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียก พริกป่น ผัดพอเข้ากัน ตักขึ้นพักไว้
3. ตอกไข่ลงขยี้พอให้สุก นำเส้นผัดไทยลงโปะ ผัดให้เข้ากัน
4. เติมถั่วงอก ใบกุยช่าย ผัดให้เข้ากัน แล้วลงพักไว้
5.ตักเสิร์ฟพร้อมผักเคียง เครื่องปรุงรสที่เตรียมไว้

ขนมจีนน้ำยา

ส่วนผสมทำน้ำยา  

เนื้อปลาต้มแกะเอาแต่เนื้อ 1 ถ้วยตวง

ลูกชิ้นปลา 150 กรัม (หรือจะไม่ใส่ก็ได้)

พริกขี้หนูแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ (แช่น้ำให้นิ่ม และนำไปสะเด็ดน้ำ)

พริกแห้ง 5-8 เม็ด (เอาเม็ดออกและแช่น้ำจนนิ่ม)

เกลือ 1 ช้อนชา

ข่าหั่นฝอย 2 ช้อนชา

ตะไคร้หั่นบางๆ 1/2 ช้อนโต๊ะ

กระเทียมหั่นหยาบ 1/2 ช้อนโต๊ะ

ขมิ้นสดหั่นละเอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ

กระชาย 1/2 ช้อนโต๊ะ

กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ

หอมแดง 2 หัว

หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง

หางกะทิ 2 ถ้วยตวง

ส้มแขก 2 ชิ้น

น้ำปลา 1/4 ถ้วยตวง

น้ำตาลปึก 2 ช้อนโต๊ะ

ขนมจีน 800 กรัม

ไข่ต้มและผักสดต่างๆ (ถั่วฝักยาว, ถั่วงอก, ใบสาระแหน่, แตงกวา, ผักกาดดอง, อื่นๆ)

วิธีทำ

1. โขลกพริกขี้หนูแห้งและพริกแห้ง กับเกลือ, ตะไคร้, ข่า, หอมแดง, กระเทียม, กระชายและ ขมิ้น โขลกจนละเอียดแล้วจึงใส่กะปิและเนื้อปลาต้ม โขลกต่อให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน 2. ตั้งหางกะทิในหม้อบนไฟร้อนปานกลาง จากนั้นจึงนำน้ำพริก (ที่โขลกเตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1) ไปละลายในหม้อ เมื่อน้ำกะทิเดือด ใส่ลูกชิ้นปลาลงไปต้มต่อ แล้วจึงปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำตาลปึกและ ส้มแขก 3. หรี่ไฟลง เคี่ยวด้วยไฟอ่อน จากนั้นจึงใส่หัวกะทิ ต้มให้เดือดอีกครั้งจึงยกลง ตักใส่ถ้วยเตรียมเสริฟ 4. จัดเส้นขนมจีนใส่จาน เสริฟทันทีขณะน้ำยายังร้อนๆพร้อมผักสดและไข่ต้ม

บัวลอยไข่หวาน

ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว   50   กรัม
น้ำเปล่า (สำหรับผสมตัวแป้ง)   1  ช้อนโต๊ะ
น้ำคั้นใบเตย   1  ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย   250   กรัม
น้ำเปล่า   1  ถ้วยตวง
หัวกะทิคั้นข้นๆ   1/2   ถ้วยตวง
เกลือป่น   1/4   ถ้วยตวง
ไข่ไก่   3  ฟอง




วิธีทำ
1. ผสมน้ำเปล่ากับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน ใส่กระทะตั้งไฟพอเดือด จนส่วนผสมเป็นน้ำเชื่อมข้นๆ เบาไฟอ่อนๆ รอจนน้ำเชื่อมเป็นยางมะตูมอ่อนๆ เบาไฟอ่อน 
2. ผสมแป้งข้าวเหนีว 25 กรัมกับน้ำเปล่า และผสมแป้งที่เหลือกับน้ำคั้นใบเตย นวดจนเนียน ปั้นเป็นเม็ดกลมเล็ก ใส่ก้อนแป้งลงต้มจนแป้งสุกใสและลอยขึ้น ตอกไข่ไก่ลงไปต้มในน้ำเชื่อม จนไข่สุกลอยขึ้น
3. ตั้งกะทิให้เดือด ใส่เกลือป่นคนจนละลาย
4. ตักบัวลอยใส่ถ้วย ตักน้ำกะทิราดข้างบน 
5.จัดเสิร์ฟให้สวยงาม 


***ถ้าอยากมีลูกบัวลอยสีอื่นๆก็ใช้น้ำคั้นจากผัก-ผลไม้ที่มีสีสันก็ได้

น้ำแอปเปิ้ลปั่น

ส่วนผสม
แอปเปิ้ล   4   ผล  (เขียวหรือแดงก็ได้)
น้ำเชื่อม   1  ถ้วยตวง
น้ำต้มสุก   2   ถ้วยตวง
น้ำมะนาว   2   ช้อนชา
เกลือป่น   1/2   ช้อน่ชา



วิธีทำ
1.ปอกเปลือก เอาแกนกลางออก เมล็ดออก นำไปปั่นให้เข้ากันจนละเอียดเนียน ใส่น้ำเชื่อม น้ำมะนาว เกลือป่น
2.นำไปแช่เย็น หรือรับประทานกับน้ำแข็ง หรือดื่มได้เลย หรือใส์โถปั่นพร้อมน้ำแข็ง ปั้นให้ละเอียดเสิร์ฟได้ทันที

น้ำกาแฟปั่น

ส่วนผสม
1. น้ำแข็งป่น   16   ออนซ์
2. ผงกาแฟ   2   ช้อนโต๊ะ
3. ครีมเทียม   1   ช้อนโต๊ะ
4. นมข้นจืด   1   ออนซ์
5. นมข้นหวาน   1   ออนซ์
6. น้ำเชื่อม   2  ออนซ์



วิธีทำ
1. ละลายผงกาแฟในน้ำร้อน
2. ตักน้ำแข็งใส่โถปั่น เติมน้ำกาแฟ แล้วใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด
3. ปั่นจนละเอียด เทกาแฟปั่นใส่แก้ว ปิดฝา ถ้าอยากให้สวยงามยิ่งขึ้น ก็ตกแต่งด้วยวิปครีมได้

ไอศกรีมกะทิ

ส่วนผสม
1. กะทิกล่อง หรือกะทิกระป๋องสูตรเข้มข้น  ขนาด   560   มิลลิลิตร    
2. น้ำตาลทราย   1   ถ้วย
3. เกลือ   3/4   ช้อนชา
4. ไข่ไก่   1   ฟอง
5. เนื้อมะพร้าวอ่อนขูดเป็นเส้น  (มีหรือไม่มีก็ได้)



วิธีทำ
1. เทกะทิทั้งหมด ผสมกับน้ำเปล่า 2 ถ้วย หรือถ้ามีน้ำมะพร้าว ก็ให้ใช้น้ำมะพร้าว กับน้ำเปล่าอย่างละ 1 ถ้วย เพื่อเพิ่มความหอมหวานของกะทิมากขึ้น  
2. นำกะทิไปตั้งไฟ แล้วค่อย ๆ เทน้ำตาลทรายผสมลงไป จากนั้นคนให้เข้ากันจนกะทิเดือด 
3. นำกะทิมาพักให้เย็น จากนั้นเทใส่ภาชนะที่เหมาะกับการแช่เย็น
4. นำภาชนะดังกล่าวไปแช่ในช่องแข็ง จนกะทิเริ่มแข็งตัว 
5. ในการแช่กะทิ ให้สังเกตุว่ากะทิเริ่มเป็นเกล็ดหรือยัง หากเริ่มเย็นจนเป็นเกล็ดแล้ว สามารถนำออกจากตู้เย็น โดยไม่ต้องรอให้กลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลานานพอสมควร
6.นำกะทิดังกล่าวมาปั่น หากไม่มีเครื่องปั่นสำหรับทำไอศกรีม สามารถใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้ธรรมดาแทนได้


ปั่นครั้งที่ 1

           นำกะทิใส่เครื่องปั่น และปั่นจนกว่าเนื้อไอศครีมจะละเอียด จากนั้นนำไปแช่ในช่องแข็งอีกรอบ

ปั่นครั้งที่ 2

          เมื่อเนื้อไอครีมที่ปั่นรอบแรกเริ่มเป็นน้ำแข็ง ก็ให้นำออกมาปั่นใหม่อีกครั้ง โดยคราวนี้ให้ใส่ไข่ขาวลงไป 1 ฟอง เมื่อเครื่องปั่นตีกะทิกับไข่ขาวจนเข้ากันแล้ว จะเห็นว่าเนื้อไอศครีมขาว และฟูขึ้น จากนั้นจึงนำไปแช่ในช่องแข็งอีกรอบ

ปั่นครั้งที่ 3

          นำไอศกรีมที่แช่จนเป็นเกร็ดแล้วมาปั่นอีกรอบ เพื่อให้เนื้อไอศกรีมเนียนฟูมากยิ่งขึ้น หากใครชอบทานไอศกรีมกะทิ แบบมีเนื้อมะพร้าวด้วย ให้นำเนื้อมะพร้าวอ่อนที่เราขูดไว้ มาผสมกับไอศกรีมกะทิที่ปั่นในรอบที่สาม แต่ในครั้งนี้ควรปั่นเพียงเล็กน้อยพอให้เนื้อมะพร้าวเข้ากันค่ะ หรือจะปั่นรอบที่สามให้เสร็จก่อน แล้วค่อยใส่เนื้อมะพร้าวแล้วปั่นอีกนิดก็ได้


***สามารถโรยหน้าด้วยถั่วลิสง หรือ อื่นๆ ได้ตามใจชอบ

กุ้งอบวุ้นเส้น

เครื่องปรุง
กุ้งขนาดกลาง   8-10   ตัว
เบคอน   2   เส้น
วุ้นเส้น   2   กำเล็ก
กระเทียมกลีบใหญ่   4-5   กลีบ
ขิงฝาน   4-5   แว่น
พริกไทยเม็ด   1  ช้อนชา
ซีอิ้วขาว   2   ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วดำ   1   ช้อนชา
น้ำมันหอย   2   ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย   2   ช้อนชา
ขึ้นฉ่าย   1   ต้น
น้ำซุปไก่   1   ถ้วย


วิธีทำ1. นำวุ้นเส้นมาแช่น้ำให้พอนิ่ม นานประมาณ 10 นาที ก็สะเด็ดน้ำ พักไว้ จากนั้น ทำความสะอาดกุ้ง ตัดหนวด หรือจะปลอกเปลือก เด็ดหัว ผ่าหลังแล้วดึงเส้นดำออกก็ได้ (แต่วันนี้กุ้งตัวไม่ใหญ่มากจึงแค่ตัดหนวดออกเท่านั้น)
2. ปลอกเปลือกกระเทียม ตัดก้านขึ้นฉ่าย นำไปล้างน้ำให้สะอาด นำขึ้นฉ่ายมาซอยหยาบๆ นำกระทียมไปทุบพอแตก และโขลกพริกไทยเม็ดให้พอแหลก จากนั้น ผสมซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ น้ำมันหอย น้ำตาลทราย น้ำซุปไก่ ขิงฝาน พริกไทยโขลกหยาบ และกระเทียมที่บุบไว้รวมกันในชามผสม จากนั้น นำวุ้นเส้นที่สะเด็ดน้ำแล้วมาใส่ลงไป ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีให้วุ้นเส้นได้ดูดน้ำปรุง
3. หั่นเบคอนเป็นชิ้นขนาดพอดีกับก้นหม้ออบแล้ววางลงไปที่ก้นหม้อ แบ่งวุ้นเส้นในชามผสมออกมาครึ่งหนึ่ง วางลงไปบนเบคอน นำกุ้งประมาณ 4-5 ตัววางทับลงไปแล้วนำวุ้นเส้นและส่วนผสมทั้งหมดที่เหลือในชามผสมราดลงไปบนตัวกุ้งที่เรียงไว้แล้ว จากนั้นก็นำกุ้งที่เหลือวางเรียงทับลงบนวุ้นเส้นอีกที
4. ปิดฝาหม้ออบแล้วนำเข้าเตาอบที่ไฟ 400° ฟาเรนไฮด์นานประมาณ 25-30 นาที เมื่อสุกได้ที่จะเห็นน้ำซุปเดือดและกุ้งสุกเปลี่ยนเป็นสีส้มก็ใส่ใบขึ้นฉ่ายลงไปแล้วอบต่อไปอีกประมาณ 2 นาที
5. เมื่อทุกอย่างสุกได้ที่ก็ปิดเตาและยกเสิร์ฟได้เลย

ต้มยำกุ้ง

 เครื่องปรุง + ส่วนผสม

กุ้งขนาดกลาง    12  ตัว (ปอกเปลือก, ทำความสะอาด)

เห็ดฟาง    10  อัน

ตะไคร้    1  กำ  (ทุบให้แหลกและหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 2 ซม.)

ใบมะกรูด    3  ใบ

เกลือ    1  ช้อนชา

น้ำปลา    2  ช้อนโต๊ะ

น้ำมะนาว    3  ช้อนโต๊ะ

พริกขี้หนู    6  เม็ด (ทุบพอให้แตก)

น้ำสะอาด    4  ถ้วยตวง

ผักชี    1/2  ถ้วยตวง (หั่นหยาบ)

 วิธีทำ

1.ปอกเปลือกกุ้งออก เหลือหางไว้ (เพื่อความสวยงามเมื่อปรุงเสร็จ) จากนั้นหั่นด้านหลังกุ้งเพื่อเอาเส้นเลือดสีดำออก เสร็จแล้วนำเห็ดฟางไปล้างให้สะอาด หั่นเป็น 4 ส่วนและนำไปผึ่งให้แห้ง 2.นำน้ำเปล่าไปต้มในหม้อ จากนั้นใส่ตะไคร้, ใบมะกรูด และกุ้ง เมื่อสีกุ้งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู (เริ่มสุก) ใส่เห็ดที่หั่นไว้แล้วและเกลือ 3.หลังจากน้ำเดือดแล้วปิดไฟ และ้นำหม้อออกมาจากเตา ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมะนาว และพริกขี้หนู เมื่อปรุงรสเสร็จตักเสิรฟในถ้วย ตกแต่งด้วยผักชีและเสิรฟทันที พร้อมด้วยข้าวสวยร้อนๆ

เมนูปลาช่อนนึ่งสมุนไพรจีน

ส่วนผสม
ปลาช่อนหนัก  500 กรัม 1 ตัว
ห่วยซัว  3 ชิ้น
เก๋าคี่  1/4 ถ้วยตวง
ลูกบัวต้มแล้ว  1/4 ถ้วยตวง
เม็ดพุทรา  1/4 ถ้วยตวง
เห็ดหอมแช่น้ำแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ  3 ดอก
พริกไทยป่น  2 ช้อนชา
น้ำสะอาด  1/2 ถ้วยตวง
เกลือ  2 ช้อนชา
ชีอิ๊วขาว  2 ช้อนโต๊ะ




วิธีทำ
1.ขอดเกล็ดปลาช่อนควักไส้ออก บั้ง 2 ข้าง จากนั้นนำไปล้างให้สะอาด ใช้ผ้าซับน้ำให้แห้ง 
2. นำปลาที่ซับน้ำแล้ว วางบนภาชนะนำห่วยซัว เก๋าคี่ ลูกบัวต้มแล้ว 
เม็ดพุทรา เห็ดหอม วางบนตัวปลา โรยด้วย พริกไทยป่น เกลือ น้ำ 
ซีอิ๊วขาว นำไปนึ่งในลังถึงน้ำเดือดพล่าน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที รับประทานร้อนๆ 

ส้มตำไทย

ส่วนผสม
มะละกอดิบ   1 ลูก
กระเทียม   5-6 กลีบ 
พริกขี้หนู   5-6 เม็ด 
มะเขือเทศผ่าครึ่ง   2 ลูก 
ถั่วลิสงคั่ว   2 ช้อนโต๊ะ 
ถั่วฝักยาวหั่น   1 ฝัก 
น้ำปลา   2 ช้อนโต๊ะ 
กุ้งแห้ง   2 ช้อนโต๊ะ 
น้ำมะนาว หรือ น้ำมะขามเปียก   1/4 ถ้วย 
น้ำตาลปีบ   1 ช้อนโต๊ะ



วิธีทำ
1.ปอกมะละกอ และล้างด้วยน้ำให้สะอาด แล้วทำการเฉาะและสับ แล้วใช้มีด ฝานให้เป็นเส้นๆ หรืออาจใช้ที่ไสมะละกอก็ได้ 
2.ใส่กระเทียมและพริกขี้หนู ลงในครก แล้วตำให้พอแตก 
3.ใส่มะเขื่อเทศ, ถั่วลิสง, ถั่วฝักยาว, กุ้งแห้ง แล้วตำให้เข้ากัน 
4.ใส่มะละกอ และ เครื่องปรุงที่เหลือ แล้วตำเบาๆ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน เสิร์ฟ

***สามารถกินกับผักได้  เช่น  กะหล่ำปลี  ผักบุ้ง  ถั่วฝักยาว  แตงกวา  เป็นต้น

ซุปกินดี-มีสุข

เครื่องปรุง (สำหรับ 4 ที่)
กระเทียมจีน  แกะเปลือก  หั่นขวาง 1 กลีบ ได้ 3 ชิ้น     1/4   ถ้วยตวง
รากผักชี  หั่นขวาง  1  ซม.   2   ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่  หั่นเต๋า  1*1  ซม.   1   ถ้วยตวง
เบคอน  หั่นชิ้นตามขวาง  กว้าง  1  ซม.   6   เส้น
เนยเค็ม   2   ช้อนโต๊ะ
แครอทต้ม  หั่นเต๋า  1*1  ซม.   1   ถ้วยตวง
มันฝรั่งต้ม  หั่นเต๋า  1*1  ซม.   1   ถ้วยตวง
ซูกินีต้ม  หั่นเต๋า  1*1  ซม.   1/2   ถ้วยตวง
มะเขือเทศท้อต้ม   1*1  ซม.   1/2   ถ้วยตวง
เซเลอรี่ต้ม   1*1  ซม.   1/2    ถ้วยตวง
ก้านต้นหอมญี่ปุ่นต้ม   1*1  ซม.   1/2    ถ้วยตวง
ถั่วแขกต้ม   1*1  ซม.   1/2    ถ้วยตวง
พริกไทยป่น   1  1/2   ช้อนชา
น้ำสะอาด    4   ถ้วยตวง
รสดี  รสไก่   1   ช้อนโต๊ะ
ซอสเทริยากิทาคูมิ-อายิ   1/2   ถ้วยตวง



วิธีทำ
1.คั่วกระเทียมจีนกับรากผักชีพอสุกหอม  ใส่หอมใหญ่ลงคั่วรวมกันจนสุกหอม  พักไว้
2.ทอดเบคอนโดยไม่ใส่น้ำมันด้วยไฟกลาง  พอกรอบตักขึ้น
3.ใส่เนยเค็มลงในกระทะที่มีน้ำมันเบคอนอยู่  เมื่อเนยละลายใส่ผักต้มทั้งหมดลงผัด  ด้วยไฟกลางจนสุก ใส่พริกไทยป่น  ผัดต่อให้เข้ากัน  ปิดไฟ  พักไว้
4.ใส่น้ำสะอาดลงในหม้อต้มจนเดือด  ใส่รสดี  รสไก่  รอเดือดสักครู่  ใส่ผักคั่ว ที่เตรียมไว้ลงต้มจนส่งกลิ่นหอม  ใส่ซอสเทริยากิทาคูมิ-อายิ  ใส่ผักที่ผัดเตรียมไว้และเบคอน  ต้มด้วยไฟกลางจนเดือด  จับเวลาต่ออีก 5 นาที  แล้วจึงลดเป็นไฟอ่อน  หมั่นช้อนฟองออก  ต้มจนผักสุกนุ่ม  ตักเสิร์ฟในถ้วยซุป

สตูหมูน้ำแดง

เครื่องปรุง (สำหรับ 4 ที่)
เนื้อสันคอหมูหั่นเต๋า  1  1/2 * 1  1/2  นิ้ว   800   กรัม
แป้งสาลีอเนกประสงค์   1/4   ถ้วยตวง
เนยเค็ม   1/4   ถ้วยตวง
ซอสมะเขือเทศ   1/2   ถ้วยตวง
พริกไทยเม็ดบุบพอแตก   1   ช้อนโต๊ะ
อบเชย  ขนาด  1  นิ้ว   1   ชิ้น
ใบกระวาน   2   ใบ
น้ำสะอาด   4   ถ้วยตวง
รสดี  รสหมู   2  1/2   ช้อนโต๊ะ
มะเขือเทศท้อ  ผ่า  4  ชิ้นต่อ  1  ลูก   2   ลูก
เม็ดถั่วลันเตาต้มสุก   1/2   ถ้วยตวง
แครอทหั่นเต๋า 1*1  นิ้ว   1/2   ถ้วยตวง
มันฝรั่งหั่นเต๋า  1*1  นิ้ว  1/2   ถ้วยตวง
หอมใหญ่หั่นเต๋า  1*1  นิ้ว  1   ถ้วยตวง
พริกหวานสีเหลือง  แดง  หั่นเต๋า  1*1  นิ้ว  อย่างละ   1/2   ถ้วยตวง
รสดีเมนู  ผัดน้ำมันหอย   60   กรัม
น้ำสะอาด   1/4   ถ้วยตวง



วิธีทำ
1.นำเนื้อสันคอหมูคลุกแป้งสาลีให้ติดทั่ว  กระทะใส่เนยเค็มแล้วเปิดไฟ  พอกระทะร้อนเนยละลาย  นำหมูลงจี่ให้ด้านนอกเหลือง  แต่ด้านในยังไม่สุก  ใส่ซอสมะเขือเทศลงผัดให้เข้ากัน  ยกลงพักไว้
2.ใส่พริกไทย  อบเชย  และใบกระวาน  ลงในหม้อ  เติมน้ำสะอาดและรสดี  รสหมู  ต้มจนน้ำเดือดส่งกลิ่นหอม  ใส่หมูที่เตรียมไว้  มะเขือเทศท้อ  เม็ดถั่วลันเตา  แครอท  มันฝรั่ง  หอมใหญ่  และพริกหวาน  ลงต้มรวมกันด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อน  จนทุกอย่างสุกนุ่ม  ชิมรสเค็มนำ  หวานผัก
3.ผสมรสดี  เมนู  ผัดน้ำมันหอยกับน้ำสะอาดให้เข้ากัน  แล้วจึงเทใส่ลงในหม้อสตู  คนจนมีลักษณะข้นเหนียวน้อยๆ  ปิดไฟ
4.การจัดเสิร์ฟ  ตักสตูหมูน้ำแดงใส่ชาม ทานกับขนมปังหรือข้าวสวยตามชอบ

ข้าวอบสามสหาย

เครื่องปรุง (สำหรับ 4 ที่)
ข้าวเหนียวขาว   1/2   ถ้วยตวง
ข้าวสารหอมมะลิ   2   ถ้วยตวง
กุนเชียงหั่นเฉียง  หนา  1/2  ซม.   1/2   ถ้วยตวง
เนยเค็ม   2   ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยแกะเปลือกสับ   1   ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่สับ   4   ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศเข้มข้น   5   ช้อนโต๊ะ
รสดี  รสหมู   2   ช้อนโต๊ะ
น้ำสะอาด   4   ถ้วยตวง
ซอสมะเขือเทศ   2   ช้อนโต๊ะ
ซอสผัดทาคูมิ-อายิ   2   ช้อนโต๊ะ
ไส้กรอกหมูหั่นเฉียง  หนา  1/2  ซม.   1/2   ถ้วยตวง
หมูยอหั่นชิ้นกว้าง  1  นิ้ว  หนา  1/2  ซม.   1/2   ถ้วยตวง
ลูกเกดดำ   1/2   ถ้วยตวง
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดกรอบ   1/2   ถ้วยตวง
ผักชีไทยเด็ดใบพอประมาณ



วิธีทำ
1.นำข้าวเหนียวขาวแช่น้ำไว้ล่วงหน้า  2  ชม.  เทน้ำออกให้สะเด็ดน้ำ  ข้าวสารหอมมะลิซาวน้ำ  1  ครั้ง  พักให้สะเด็ดน้า  นำข้าวทั้ง 2 ชนิดมาผสมเข้าด้วยกัน
2.นำกุนเชียงใส่จานขึ้นนึ่งในน้ำเดือด  10  นาที  ยกลงพักให้เย็น  แล้วนำลงจี่ในกระทะ  พอตึงตัวส่งกลิ่นหอมจึงนำขึ้นพักมห้เย็นแล้วหั่น
3.ตั้งกระทะใส่เนยเค็ม  ผัดกับกระเทียมและหอมใหญ่จนส่งกลิ่นหอม  ใส่ซอสมะเขือเทศเข้มข้นและข้าวที่เตรียมไว้ลงผัดเคล้าให้ทั่ว  ปรุงรสด้วยรสดี  รสหมู  ผัดให้เข้ากัน
4.เทข้าวที่ผัดไว้ใส่หม้อหุงข้าวไฟฟ้า  เติมน้ำให้ท่วมก่อนกดสวิตช์หุงข้าว
5.ระหว่างรอข้าวสุก  ผสมซอสมะเขือเทศกับซอสผัดทาคูมิ-อายิให้เข้ากัน
6.เมื่อข้าวสุก  ใส่ซอสที่เตรียมไว้  ไส้กรอกหมู  หมูยอและกุนเชียงลงในข้าวสุก  คลุกเคล้าให้กระจายทั่ว ชิมรสเค็มกลางๆ  หวานน้อยๆ
7.ตักใส่จานเสิร์ฟ  โรยหน้าด้วยลูกเกดดำ  เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดกรอบ  และผักชี

กระทงทอง ไส้ทูน่าซอสขาว

เครื่องปรุง (สำหรับ 8 ที่)
แป้งสาลีตราพัดโบก   1/2   ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า   1/2   ถ้วยตวง
น้ำตาลแครอรี่ต่ำไลท์  ชูการ์   1   ซอง
เกลือป่น   1/2   ช้อนชา
น้ำปูนใส   1/2   ถ้วยตวง
น้ำสะอาด   1/4   ถ้วยตวง
ไข่แดง   1   ฟอง
น้ำมันพืช   1  1/2   ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ   1/8   ช้อนชา
น้ำมันสำหรับทอด   1   ลิตร
เนยสด   1   ช้อนโต๊ะ
แป้งสาลี   2   ช้อนชา
นมสด   1   ถ้วยตวง
เกลือและพริกไทยป่น  สำหรับปรุงรส
รสดี  รสไก่   1/4   ช้อนชา
ทูน่ากระป๋องในน้ำเกลือ (ใช้เฉพาะเนื้อ)   150   กรัม
แครอทหั่นลูกเต๋าลวก   60   กรัม  หรือ   1/2   ถ้วยตวง
มันฝรั่งหั่นลูกเต๋าลวก   60   กรัม  หรือ   1/2   ถ้วยตวง
ใบผักชีฝั่ง  และพริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย



วิธีทำ
1.ผสมแป้งสาลี  แป้งข้าวเจ้า  น้ำตาลแครอรี่ต่ำไลท์  ชูการ์  และเกลือป่นเข้าด้วยกัน  ค่อยๆเติมน้ำปูนใสและน้ำสะอาดลงทีละน้อย  ใช้พายคนผสมหรือใช้มือเคล้าให้แป้งละลายไม่เป็นเม็ด  ใส่ไข่แดง  น้ำมันพืช  และน้ำตาลปี๊บ  คนให้เข้ากัน
2.ใส่น้ำมันลงในกระทะทองเหลือง  ตั้งไฟปานกลาง  นำพิมพ์กระทงทองลงแช่ในน้ำมัน  ให้พิมพ์ร้อนจัด
3.ยกพิมพ์ขึ้นจากน้ำมัน  จุ่มก้นพิมพ์ลงในแป้งให้ติดพิมพ์ประมาณ  1/4  ของพิมพ์  นำลงทอกในน้ำมันโดยกดพิมพ์ลงกับก้นกระทะพอให้ก้นกระทงแบบ  รอจนแป้งสุกหลุดจากพิมพ์  ทอดต่อให้เป็นสีเหลืองทอง  แล้วตักขึ้นพักไว้ให้เย็น
4.ผัดเนยสดกับแป้งสาลีพอเข้ากัน  ใส่นมสดลงคนให้แป้งละลาย  ปรุงรสด้วยเกลือป่น  พริกไทยป่น  และรสดี  รสไก่  ให้เข้ากัน  ใส่ทูน่า  แครอท  และมันฝรั่งลงคลุกเคล้าให้เข้ากับซอส
5.ตักส่วนผสมของไส้ทูน่าซอสขาวลงในกระทงทอง  แต่งหน้าด้วยผักชีฝรั่ง  และพริกชี้ฟ้าแดง

เฟตตูชินีคั่วไก่

เครื่องปรุง (สำหรับ 2 ที่)
น้ำมันพืชสำหรับต้มเส้น   1   ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น   2   ช้อนชา
เส้นเฟตตูชินีแห้ง   100   กรัม
สันในไก่   1/4   ถ้วยตวง
รากผักชี  กระเทียม  พริกไทย  โขลกละเอียด   1   ช้อนโต๊ะ
ปลาหมึกสด   1/4   ถ้วยตวง
ปลาหมึกกรอบ   1/4   ถ้วยตวง
น้ำมันพืชสำหรับผัด   2   ช้อนโต๊ะ

ตังฉ่าย   1   ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลแครอรี่ต่ำไลท์  ชูการ์   1   ช้อนโต๊ะ

ซีอิ๊วขาว   1ช้อนโต๊ะ

รสดี  รสไก่   1/2   ช้อนชา

ไข่ไก่   2   ฟอง
ต้นหอมหั่นฝอย   2   ช้อนโต๊ะ

ผักกาดหอม   3-4   ใบ

พริกไทยป่น   1/2   ช้อนชา
ซอสพริก   2   ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1.เตรียมน้ำสะอาด  ประมาณ  3/4  หม้อ  ใส่น้ำมันพืชและเกลือป่น  ตั้งไฟให้เดือด  ใส่เส้นเฟตตูชินีลงต้ม  ประมาณ  7  นาที  ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ  คลุกน้ำมันพืชเล็กน้อย  เพื่อให้เส้นไม่ติดกัน

2.หั่นไก่ให้ได้ชิ้นพอดีคำ  หมักกับรากผักชี  กระเทียม  และพริกไทยที่โขลกไว้  บั้งปลาหมึกสดและปลาหมึกกรอบ  แล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ

3.ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน  ใส่ไก่  ปลาหมึกสดและปลาหมึกกรอบ  ลงผัดจนสุก  ใส่ตังฉ่ายและเส้นเฟตตูชินี  ลงผัดให้เข้ากัน  ปรุงรสด้วยน้ำตาลแครอรี่ต่ำไลท์  ชูการ์  ซีอิ๊วขาว  รสดี  รสไก่  ใส่ไข่ไก่ลงผัดให้สุก  จึงใส่ต้นหอมหั่นฝอย

4.จัดผักกาดหอมรองจานพอสวยงาม  ตักเฟตตูชินีคั่วไก่วางด้านบน  โรยหน้าด้วย  พริกไทยป่น  เสิร์ฟคู่กับซอสพริก

สเต๊กหมูยำเห็ด

เครื่องปรุง (สำหรับ 4ที่)
เนื้อหมูสันนอกหั่นแผ่นใหญ่  หนา  1/2  นิ้ว  (2ชิ้น ชิ้นละ 200 กรัม)   400   กรัม
รสดี  รสหมู   1   ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช   3   ช้อนโต๊ะ
เนยจืด   2   ช้อนโต๊ะ
น้ำสะอาด   1   ถ้วยตวง
รสดี  รสไก่   1  1/2   ช้อนโต๊ะ
เห็ดฟางตูมหั่นบางตามยาวดอก   1   ถ้วยตวง
เห็ดนางฟ้าส่วนดอกฉีกชิ้นกว้าง  1  นิ้ว   1   ถ้วยตวง
เห็ดหูหนูตัดเป็นดอก  กว้าง  1  นิ้ว    1    ถ้วยตวง
ซีอิ๊วขาว   1   ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว   3   ช้อนโต๊ะ
พริกป่น   2   ช้อนโต๊ะ
ข้าวคั่วบด   3   ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมซอย   2   ช้อนโต๊ะ
ผักชีใบยาวหั่นหยาบ   3   ช้อนโต๊ะ
ใบสะระแหน่เด็ดใบ   1/4   ถ้วยตวง



วิธีทำ
1.ใช้ค้อนสำหรับทุบเนื้อทุบเนื้อหมูทั้ง 2 ด้าน  แล้วคลุกรสดี  รสหมู  ให้ทั่ว  วางพักไว้  5  นาที
2.กระทะแบน  ใส่น้ำมันพืชและเนยจืดลงไป  ตั้งไฟกลาง  พอน้ำมันร้อน  นำหมูลงจี่  พอสุกทั้ง 2 ด้าน  (อย่าให้สุกมาก เพราะเนื้อจะแข็ง)  ใส่จานพักไว้
3.ใส่น้ำสะอาดกับรสดี  รสไก่  ในกระทะใบบัว  ต้มพอเดือด  ใส่เห็ดฟาง  เห็ดนางฟ้า  และเห็ดหูหนู  ลงต้มจนสุกนุ่ม  เหลือน้ำขลุกขลิก  ปิดไฟ  ปรุงรสด้วย  ซีอิ๊วขาว  น้ำมะนาว  พริกป่น  ข้าวคั่ว  ต้นหอม  ผักชี  ใบสะระแหน่  เคล้าให้ทั่ว  ชิมรสเปรี้ยว  เค็ม  เผ็ด  หอมเครื่องปรุง
4.การจัดเสิร์ฟ  จัดสเต๊กหั่นชิ้นพอคำลงบนจานเสิร์ฟ  ตักยำเห็ดวางข้างชิ้นสเต๊ก  แต่งหน้าด้วยใบสะระแหน่

เปาะเปี๊ยะทอด ไส้ผักโขมเบคอน

เครื่องปรุง (สำหรับ 4 ที่)
น้ำมันพืช   2   ช้อนโต๊ะ
เนยเค็ม   2   ช้อนโต๊ะ
กระเทียมกลีบใหญ่  แกะเปลือก  ทุบแล้วสับหยาบ   1/4   ถ้วยตวง
พริกขี้หนูแห้งซอยขวางเป็นชิ้นบาง  1/4  ซม.   1   ช้อนโต๊ะ
ใบผัดโขมสดหั่นขวางใบ  1  ซม.   4   ถ้วยตวง
รสดี  รสหมู   1  1/2   ช้อนโต๊ะ
น้ำสะอาด   1   ช้อนโต๊ะ
เบคอนหั่นขวางแผ่นเป็นชิ้นเล็ก   กว้าง  1  ซม. (ประมาณ  6  แผ่น)    1   ถ้วยตวง
มายองเนส   1   ถ้วยตวง
กระเทียมกลีบใหญ่  แกะเปลือก  สับละเอียด   2   ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว   2   ช้อนโต๊ะ
น้ำจิ้มไก่สำเร็จรูปชนิดหวาน   1/4   ถ้วยตวง
อายิโนะโมะโต๊ะ   1/2   ช้อนชา
แป้งเปียกสำหรับทาริมแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะเล็กน้อย   แป้งเปาะเปี๊ยะแบบแผ่นกลม  (ประมาณ 24 แผ่น)   500   กรัม
น้ำมันปาล์มสำหรับทอด   2   ถ้วยตวง



วิธีทำ
1.นำกระทะตั้งไฟกลาง  ใส่น้ำมันพืชกับเนยเค็ม  พอร้อนใส่กระเทียมและพริกขี้หนูแห้งลงผัด  จนส่งกลิ่นหอม  ใส่ผักโขมลงพอสลด  เติมรสดี  รสหมู  ผัดต่อสักครู่จึงเติมน้ำสะอาด  เพื่อให้ผักโขมนุ่ม  ผัดจนผักสุกนุ่มแล้วตักใส่กระชอนให้น้ำตกลงมากที่สุด  พักไว้
2.ตั้งกระทะไฟกลาง  ใส่เบคอนลงคั่วจนกรอบ  ตักขึ้นพักไว้
3.ทำน้ำจิ้มโดยผสมมายองเนส  กระเทียม  น้ำมะนาว  น้ำจิ้มไก่และอายิโนะโมะโต๊ะ  ให้เข้ากัน  ชิมรสออกเปรี้ยว  หวาน  มัน  เค็ม  เผ็ดน้อยสุด  พักไว้
4.วางแผ่นเปาะเปี๊ยะ 2 แผ่นติดกัน  ตักผักโขมที่ผัดไว้วางด้านบน  แล้ววางชิ้นเบคอนกรอบบนผักโขมเป็นแนวยาวห่างๆ  จากนั้นม้วนแผ่นเปาะเปี๊ยะ  แล้วทาแป้งเปียกที่ปลายสุดแผ่นแป้ง  กดให้ติดแผ่น  ทำเช่นนี้จนหมด  จึงนำไปทอดในน้ำมันท่วมๆ  ไฟกลาง  จนสุกเหลือง
5.ตัดเปาะเปี๊ยะทอดเป็นชิ้นเฉียง  2  ชิ้นต่อ  1  แท่ง  จัดใส่จาน  เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มที่เตรียมไว้

ปูจ๋าน้ำแดง

เครื่องปรุงน้ำแดง (สำหรับ 4 ที่)

• น้ำมันสำหรับผัด
• กระเทียมสับ   1   ช้อนโต๊ะ
• น้ำสะอาด   1  1/2   ถ้วยตวง
• รสดีเมนู  ผัดน้ำมันหอย   2   ช้อนโต๊ะ

เครื่องปรุง

• เนื้อปู   100   กรัม
• หมูบด   60   กรัม
• ไข่แดง (ไข่ไก่)   1   ฟอง
• แป้งข้าวโพด   1   ช้อนโต๊ะ
• รากผักชี  กระเทียม  พริกไทย  โขลกละเอียด   1   ช้อนโต๊ะ
• รสดี  รสหมู   1/2   ช้อนชา
• น้ำตาลแครอรี่ต่ำไลท์  ชูการ์   1/2   ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา   1   ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว   1   ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันหอย   1   ช้อนโต๊ะ
• กระดองปูขนาดเล็ก   6   ชิ้น
• ผักชีเด็ดใบและพริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย  สำหรับแต่งหน้า
• น้ำมันสำหรับทอด
• ไข่ไก่   1   ฟอง

วิธีทำ
1.เตรียมซอสน้ำแดง  โดยตั้งกระทะใส่น้ำมัน  นำกระเทียมลงผัดให้หอม  เติมน้ำสะอาด และรสดีเมนู  ผัดน้ำมันหอย  ลงผัดจนมีลักษณะข้นและเหนียวเล็กน้อย  ยกลง  พักไว้
2.ผสม เนื้อปู  หมูบด  ไข่แดง  แป้งข้าวโพด  รากผักชี  กระเทียม  และพริกไทย  โขลกละเอียด  ให้เข้ากัน  ปรุงรสด้วยรสดี  รสหมู  น้ำตาลแครอรี่ต่ำไลท์  ชูการ์  น้ำปลา  ซีอิ๊วขาว  และน้ำมันหอย  เคล้าให้เข้ากัน  แล้วนำไปบรรจุลงในกระดองปูจนเต็ม  แต่งหน้าด้วยใบผักชีและพริกชี้ฟ้าแดง  จากนั้นน้ำไปนึ่งในลังถึงด้วยไฟกลาง  ประมาณ  15  นาที  ยกลง  พักให้เย็น
3.ตั้งกระทะ  ใส่น้ำมัน  ใช้ไฟกลาง  พอร้อน  นำปูจ๋าที่เตรียมไว้ลงชุบไข่  แล้วนำลงทอด  จนเหลืองกรอบ  ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน  เสิร์ฟรับประทานคู่กับซอสน้ำแดงที่เตรียมไว้

เฟรนช์ฟรายส์ทรงเครื่อง

เครื่องปรุงซอสมายองเนสปรุงรส (สำหรับ 4 ที่)
มายองเนส   1/2   ถ้วยตวง
มัสตาร์ดเหลืองชนิดครีม   1   ช้อนชา
น้ำมะนาว   1   ช้อนชา
อายิโนะโมะโต๊ะ   1/2   ช้อนชา
เครื่องปรุงซอสพริกปรุงรส
ซอสพริก   2   ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศ   1/2   ถ้วยตวง
อายิโนะโมะโต๊ะ   1/2   ช้อนชา
เครื่องปรุง

• มันฝรั่งหัวใหญ่   6   หัว
• แป้งรสดี  ครัวครบรส  รสต้นตำหรับ   2   ซอง
• เกล็ดขนมปัง  เกล็ดใหญ่   2   ถ้วยตวง
• พริกขี้หนูแดงซอย   2   ช้อนโต๊ะ
• ใบผักชีไทยซอย   4   ช้อนโต๊ะ
• งาดำคั่วบุบพอแตก   2   ช้อนโต๊ะ
• แป้งข้าวเจ้า   1   ถ้วยตวง
• น้ำเย็น   1/2   ถ้วยตวง
• น้ำมันปาล์ม   2   ถ้วยตวง
• ต้นหอมซอย   4   ช้อนโต๊ะ
• งาขาวคั่วบุบพอแตก   2   ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1.เตรียมซอสโดยการนำเครื่องปรุงทั้งหมดใส่ถ้วย  คนให้เข้ากัน  ทำเช่นเดียวกันทั้งสองชนิด

2.ล้างมันฝรั่งให้สะอาด  นำไปนึ่งสุกทั้งเปลือก  พักให้เย็นแล้วจึงนำมาหั่นเป็นแท่งแบบเฟรนช์ฟลายส์  ขนาด  1  ซม.  ยาว  1  1/2  นิ้ว  ตัดเปลือกออก  ผึ่งไว้สักครู่

3.นำชิ้นมันฝรั่งแท่งลงชุบแป้งข้าวเจ้าโดยไม่ต้องผสมน้ำให้ติดทั่ว  ผสมแป้งรสดี  ครัวครบรส  รสต้นตำรับกับน้ำเย็นให้มีลักษณะข้นเหลวแล้วจึงนำชิ้นมันฝรั่งแท่งลงชุบให้ติดทั่วอีกครั้ง  คลุกเกล็ดขนมปังให้ติดทั่วทั้งชิ้น  นำลงทอดในน้ำมันปาล์ม  จนสุกเหลืองโดยใช้ไฟกลาง  ตักขึ้นซับน้ำมัน  

4.วางชิ้นเฟรนช์ฟลายส์ในจานเสิร์ฟ  ราดซอสมายองเนสปรุงรสและซอสพริกปรุงรส  บนชิ้นเฟรนช์ฟรายส์  โรยหน้าด้วยพริกขี้หนู  ต้นหอม  ผักชีงาขาว  งาดำ  พร้อมเสิร์ฟ